ถอดรหัสลายนิ้วมือ สู่ความสำเร็จ... Decoding Fingerprint For Success
Subsribe Email
Subscribe E‐mail

ทำไมเด็กวัย 8-12 ขวบต้องเรียนพิเศษ

เรียนพิเศษ

ทำไมเด็กวัย 8-12
ขวบต้องเรียนพิเศษ ไม่เรียนได้ไหม


     จะเห็นได้ว่าเด็กทุกวันนี้ต่างก็แข่งกันไปเรียนพิเศษ เพื่อให้ได้เกรดดี สอบได้ลำดับดี แต่ถ้าเด็กที่เรียนพิเศษเป็นเด็กช่วงมัธยมปลายก็ไม่ค่อยน่าแปลกใจ เพราะเด็กวัยนี้จะต้องสอบเข้ามหาวิทยาลัย แต่ทุกวันนี้เราจะเห็นว่าเด็กหันมาเรียนพิเศษตั้งแต่อยู่ ป.1ซึ่งมันทำให้อดคิดไม่ได้ว่า เด็กแข่งขันกันเรียนเข้มข้นขนาดนี้เลยเหรอ แล้วเรียนเคร่งขนาดนี้จะมีเวลาได้เล่น ได้สนุกสนานตามวัยไหม ซึ่งโดยปกติแล้วเด็กก็คงไม่อยากเรียนเท่าไหร่ เหตุผลหลักๆมากจากพ่อแม่ ซึ่งเรามาดูกันว่ามีเหตุผลอะไรบ้างที่พ่อแม่ให้ลูกเรียนพิเศษตั้งแต่อยู่ประถม
  1. ให้เรียนตั้งแต่เด็ก เพราะจะจดจำอะไรได้ดีกว่าไปเรียนเอาตอนโตแล้ว
  2. เพราะไม่อยากให้ลูกไปติดเกมส์ ไปเล่นกับเพื่อนกลัวเสียคน จึงให้ไปเรียนพิเศษดีกว่า
  3. เพราะคาดหวังกับลูกว่าโตขึ้นจะต้องสอบเรียนแพทย์ เรียนวิศวะ หรืออาชีพที่พ่อแม่คาดหวังไว้ให้ลูกจึงต้องเรียนพิเศษตั้งแต่เด็กๆ
  4. เพราะสังคมทุกวันนี้มีสิ่งยั่วยุเยอะ กลัวลูกจะไปเจอสิ่งที่ไม่ดีเลยส่งลูกไปเรียนพิเศษ
  5. เพราะค่านิยมของสังคม ที่พ่อแม่นิยมอวดลูก ยิ่งลูกใครเก่งกว่า พ่อแม่ก็จะได้หน้า
  6. เพราะลูกเรียนอ่อนจึงให้ลูกไปเรียนพิเศษ เช่น ลูกเรียนอ่อนวิชาคณิตศาสตร์ ก็ส่งให้ลูกไปเรียนพิเศษวิชาคณิตศาสตร์เพิ่ม เพื่อจะได้เรียนทันเพื่อน
 
     ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไรก็ตาม พ่อแม่ก็หวังดีกับลูก อยากให้ลูกได้เรียนเก่ง เพื่อที่โตขึ้นจะเอาตัวรอดและดูแลตัวเองได้ และสามารถฝากผีฝากไข้ได้ยามพ่อแม่แก่ตัวลง   แล้วมีแค่การเรียนพิเศษเท่านั้นเหรอที่จะทำให้ลูกเรียนเก่งได้ ยังมีวิธีอื่นอีกไหมที่ไม่ต้องส่งลูกไปเรียนพิเศษ แต่ทำให้ลูกเก่งได้
 
     จะสังเกตได้ว่ามีเด็กหลายคนที่ไม่ได้ไปเรียนพิเศษแต่มีผลการเรียนดี บางทีเก่งกว่าเด็กที่ไปเรียนพิเศษเสียอีก ซึ่งเป็นที่น่าสนใจว่า เด็กคนนั้นมีเคล็ดลับอะไร ที่ไม่ต้องไปเรียนพิเศษก็เก่งได้ เราไปดูกันเลย

  1. ตั้งใจเรียนในชั่วโมงเรียน ไม่วอกแวก มีสมาธิในการเรียน ไม่คิดถึงการ์ตูน ไม่คิดถึงเกมส์ ก็จะทำให้ได้รับความรู้อย่างเต็มที่ในชั่วโมงเรียนเด็กทีไปเรียนพิเศษส่วนมากไม่สนใจเวลาเรียนจึงทำให้ไม่เข้าใจก็เลยต้องไปเรียนพิเศษเพิ่มเติม
  2. ทำการบ้านทุกครั้งที่ครูสั่งและส่งให้ทันกำหนดเวลา เพราะการทำการบ้านเท่ากับการทบทวนการเรียน และยังฝึกให้นักเรียนได้หาข้อมูลเพิ่มเติมต่างๆ ถ้าเด็กตั้งใจทำการบ้านทุกครั้งก็เท่ากับการเรียนพิเศษ
  3. มีพ่อแม่คอยส่งเสริม เช่น หาหนังสือ หรือแบบฝึกหัดเพิ่มเติมจากหนังสือของโรงเรียน เพื่อให้ลูกได้ฝึกทำ โดยมีพ่อแม่คอยให้คำแนะนำ คอยสอน
  4. อ่านทบทวนตำราเรียนและค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมด้วยตนเอง ไม่ว่าจะเป็นสอบถามจากรุ่นพี่ ครูหาข้อมูลจากอินเตอร์เน็ต จากห้องสมุด  ข้อนี้พ่อแม่ก็ควรสนับสนุนโดยการพาไปห้องสมุด หรือพาไปซื้อหนังสือที่ลูกสนใจ

และที่สำคัญควรให้ลูกได้มีเวลาเล่นสนุกตามวัยบ้าง ได้เล่นกับเพื่อนๆ ได้เล่นกีฬา และมีกิจกรรมกับครอบครัวบ้าง ลูกจะได้รู้สึกผ่อนคลายไม่เครียดจนเกินไป การที่ลูกจะเรียนเก่งได้ ส่วนหนึ่งมาจากตัวเขาเอง หากลูก มีแววเก่งเรื่องอะไร พ่อแม่ก็ควรส่งเสริมสนับสนุนเพื่อให้เขาสามารถดึงศักยภาพนั้นออกมาใช้ได้อย่างเต็มที่ แต่ถ้าลูกเรียนไม่เก่ง แต่เขาอาจสนใจด้านอื่น เช่น การวาดภาพ ศิลปะ กีฬา ดนตรี พ่อแม่ก็ควรส่งเสริมให้ลูกได้ทำในสิ่งที่ลูกถนัดจะดีกว่าไม่ควรบีบบังคับให้ลูกเรียนเพราะสุดท้ายผลเสียก็ตกอยู่กับตัวลูกเอง



ด้วยความรักและปรารถนาดีจาก สถาบันสแกนลายนิ้วมือเพื่อค้นหาศักยภาพ NST-Inter
สแกนลายนิ้วมือ ที่ไหนดี| การวิเคราะห์ลายนิ้วมือ|ลาย นิ้ว มือ บอก ความ ถนัด|ลายนิ้วมือบอกอาชีพ|สแกนลายนิ้วมือ บอกนิสัย |ค้นหาพรสวรรค์ของตัวเอง |ค้นหาศักยภาพสมองผ่านลายนิ้วมือ |ค้นหาศักยภาพผ่านลายนิ้วมือ